| 
   ภาค อุตฯขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีอุตฯ ต.ค.พุ่ง 6.24% การผลิตรถยนต์-รถจักรยานยนต์-ชิ้นส่วนอิเล็กฯ-แอร์-เม็ดพลาสติก-ผงซักผ้า ยอดผลิตและจำหน่ายยังขยายตัวได้ดี  นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงเล็กน้อย โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) เดือนตุลาคม 2553 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน หลังจากเผชิญภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยอัตราการใช้กำลังการผลิต 64.11% อุตสาหกรรมที่ส่งผลต่อการขยายตัวของ MPI เดือน ต.ค.เมื่อเทียบกับเดีอนเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญได้แก่ การผลิตรถยนต์-รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องปรับอากาศ (แอร์) เม็ดพลาสติก ผงซักผ้า เป็นต้น  ขณะที่ การผลิต Hard disk drive ปรับฐานเล็กน้อย 
การผลิตรถยนต์  เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและจำหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้น 21.4% และ 22.3%ตามลำดับ ขณะที่ การผลิตรถจักรยานยนต์ มีทิศทางการขยายตัวที่สอดคล้องกัน โดยยอดการผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น 13.4%และ 11.0% ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจของโลกและของประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น สำหรับตลาดภายในประเทศได้รับผลดีจากค่ายรถยนต์ต่างมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ออกมาเสนอเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวได้ดีจึงส่งผลให้เกษตรกรมีกำลังซื้อ รถยนต์และรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น
   การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น 9.8%และ6.8% ตามลำดับ เนื่องจากการขยายตัวของตลาดโลก โดย Semiconductor Industry Association : SIA ได้ รายงานสถานการณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 3/2553 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนขยายตัวเพิ่มขึ้น 26.2%ยอดขายยังคงเติบโตทั่วโลก และระดับสินค้าคงคลังอยู่ในระดับที่สมดุลกับความต้องการบริโภคสินค้า สินค้าที่มียอดขายสูงสุดได้แก่ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุค โทรทัศน์จอแบบ และโทรศัพท์มือถือ โดยคาดว่าในปี 2553 อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีโอกาสขยายตัวได้สูงถึง 28.4%
   การผลิตเครื่องปรับอากาศ เมื่อ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น 39.6%และ30.0% ตามลำดับ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวผู้ประกอบการได้ส่งสินค้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาด อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ นอกจากนี้ปัจจัยหนึ่งเอื้อต่อการขยายตัว คือ การยกเว้นภาษีสรรพสามิตแอร์เป็น 0% จากเดิม 15% อย่างไรก็ตามในไตรมาสสุดท้าย หากต้องเผชิญกับปัจจัยเรื่องเงินบาทแข็งค่าขึ้นและราคาวัตถุดิบที่มีการปรับ ตัวสูง อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ
   รายย่อย เนื่อง จากไม่ได้ทำประกันความเสี่ยงค่าเงินเหมือนบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งผู้ประกอบการเห็นว่าภาครัฐควรต้องเร่งหามารตการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
   การผลิตเม็ดพลาสติก เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น 23.2%และ17.7% ตามลำดับ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว จึงมีความต้องการใช้เม็ดพลาสติกเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ บรรจุภัณฑ์พลาสติกต่างๆ รวมทั้งเครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นผลสืบเนื่องมาจากการขยายกำลังการผลิตของผู้ประกอบการเพื่อ รองรับความต้องการที่มีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
   การผลิตสบู่และผงซักฟอก เมื่อ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น 34.5%และ31.2% ตามลำดับ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นยิ่งขึ้น ผู้ผลิตได้มีปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคภายใต้แนวคิดสะอาดคุ้มค่า อีกทั้งกิจกรรมส่งเสริมการขายช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคพร้อมจับจ่ายสินค้าใน กลุ่มนี้ยิ่งขึ้น จึงส่งผลต่ออัตราการขยายตัวดังกล่าว
   นางสุทธินีย์ สรุปภาพรวมภาพรวม MPI เดือนตุลาคม 2553 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ดังนี้
   ดัชนีผลผลิต (มูลค่าเพิ่ม) อยู่ที่ระดับ 191.57 เพิ่มขึ้น 6.24% จากระดับ 180.32 ดัชนีการส่งสินค้า อยู่ที่ระดับ 194.08 เพิ่มขึ้น 5.32% จากระดับ 184.27 ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง 190.53 เพิ่มขึ้น 11.46% จากระดับ 170.94 ดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 121.83 เพิ่มขึ้น 4.94% จากระดับ 116.09 ดัชนีผลิตภาพแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 137.34 เพิ่มขึ้น 2.91% จากระดับ 133.46  โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 64.11% 
| 
 Index 
  
 | 
   
2552 
 | 
 2553 
 | 
 
| 
 ต.ค. 
 | 
 พ.ย. 
 | 
 ธ.ค. 
 | 
 ม.ค. 
 | 
 ก.พ. 
 | 
 มี.ค. 
 | 
 เม.ย. 
 | 
 พ.ค. 
 | 
 มิ.ย. 
 | 
 ก.ค. 
 | 
 ส.ค. 
 | 
 ก.ย. 
 | 
 ต.ค. 
 | 
 
| 
 ดัชนีผลผลิต 
อุตสาหกรรม 
 | 
 180.19 
 | 
 180.37 
 | 
 194.66 
 | 
 179.62 
 | 
 183.31 
 | 
 211.73 
 | 
 179.34 
 | 
 184.94 
 | 
 194.39 
 | 
 190.22 
 | 
 184.14 
 | 
 201.45 
 | 
 191.57 
 | 
 
| 
 อัตราการเปลี่ยนแปลง (MOM) % 
 | 
 -3.3 
 | 
 0.03 
 | 
 8.0 
 | 
 -7.9 
 | 
 2.0 
 | 
 15.6 
 | 
 -15.6 
 | 
 2.8 
 | 
 5.07 
 | 
 -2.05 
 | 
 -3.14 
 | 
 9.65 
 | 
 -4.91 
 | 
 
| 
 อัตราการ 
เปลี่ยนแปลง (YOY) % 
 | 
 -0.5 
 | 
 7.5 
 | 
 30.7 
 | 
 29.1 
 | 
 31.1 
 | 
 32.6 
 | 
 23.0 
 | 
 15.9 
 | 
 14.34 
 | 
 13.16 
 | 
 8.67 
 | 
 8.13 
 | 
 6.24 
 | 
 
| 
 อัตราการใช้ 
กำลังการผลิต % 
 | 
 61.0 
 | 
 60.3 
 | 
 61.8 
 | 
 60.4 
 | 
 60.6 
 | 
 67.9 
 | 
 57.9 
 | 
 64.0 
 | 
 65.66 
 | 
 62.40 
 | 
 64.03 
 | 
 64.36 
 | 
 64.11 
 | 
 
 
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม  |