สมอ. เผยความคืบหน้าการปรับปรุงมาตรฐานบังคับ มอก.1955-2551 บริภัณฑ์ส่องสว่าง มีผลบังคับใช้ 19 มิถุนายน 2554
นายชัยยง กฤตผลชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบัน แนวโน้มในการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ นอกจากเรื่องสมรรถนะในการใช้งานต่างๆ แล้วยังเน้นในเรื่องของความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และการประหยัดพลังงาน ซึ่งในปี 2554 นี้ สมอ. ได้ปรับวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านมาตรฐานเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืน เนื่องจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค และเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะมาตรฐานเป็นกติกาที่ประเทศคู่ค้าใช้ในเรื่องการค้าระหว่างประเทศ และเป็นกลไกที่ใช้ได้อย่างยั่งยืนด้วย โดย ที่ผ่านมาสมอ.ได้กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างๆ และปรับปรุงมาตรฐานให้ทันต่อเทคโนโลยีการผลิตตลอดเวลา โดย สมอ.ได้กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมไปแล้วกว่า 2,600 เรื่อง
เลขาธิการ สมอ. ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการปรับปรุงมาตรฐานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ สมอ.อยู่ระหว่างการปรับปรุงมาตรฐานหลายเรื่อง เช่น มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบริภัณฑ์ส่องสว่างและบริภัณฑ์ที่คล้ายกันตาม มอก.1195-2545 ซึ่งกำหนดตั้งแต่ปี 2545 โดยมาตรฐานนี้จะครอบคลุมถึงอุปกรณ์ส่องสว่าง เช่น ป้ายโฆษณานีออน ดวงโคมไฟฟ้าที่ใช้นอกอาคาร อุปกรณ์ส่องสว่างในการขนส่งที่ติดตั้งในรถโดยสารและรถไฟ เป็นต้น แต่ไม่ครอบคลุมถึงอุปกรณ์ส่องสว่างสำหรับเครื่องบินและท่าอากาศยาน เครื่องถ่ายเอกสาร และเครื่องฉายสไลด์ ปัจจุบัน สมอ.ได้ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ผลิตในประเทศ 1,428 ฉบับและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้นำเข้า 921 ฉบับ ต่อมา สมอ. ได้เสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานดังกล่าว โดยได้แก้ไขเรื่องการทดสอบ เพื่อให้ทันต่อเทคโนโลยีการผลิตที่เปลี่ยนไป ขณะนี้ สมอ.ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องกับมาตรฐานดังกล่าวจนครบถ้วนตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 แล้ว ซึ่งพระราชกฤษฎีดังกล่าวจะมีผลบังคับให้ผู้ทำ ผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย จะต้องทำ นำเข้าและจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปตามมาตรฐานเท่านั้น หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย ซึ่งมาตรฐาน มอก.1955-2551 จะมีผลบังคับใช้วันที่ 19 มิถุนายน 2554
สำหรับผู้ทำ ผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักบริหารมาตรฐาน 2 โทรศัพท์ 0 2202 3464 หรือสำนักกฎหมาย สมอ. โทรศัพท์ 0 2202 3321 ในวันและเวลาราชการ
แหล่งที่มา กระทรวงอุตสาหกรรม
|